การถ่ายวิดีโอให้ดูมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้นด้วยกล้องนั้น กล้องวิดีโอไม่ใช่เพียงแค่การมีอุปกรณ์ดีหรือกล้องราคาแพง แต่ยังต้องอาศัยความเข้าใจในเทคนิคและหลักการเบื้องหลังของการสร้างภาพเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ มีความสวยงาม และถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนักถ่ายวิดีโอที่มีประสบการณ์มักจะให้ความสำคัญกับองค์ประกอบต่างๆ ทั้งในด้านแสง เฟรม การเคลื่อนไหวของกล้อง องค์ประกอบภาพ และการวางแผนล่วงหน้า เพราะทุกอย่างล้วนส่งผล
ต่อความรู้สึกที่ผู้ชมได้รับจากวิดีโอหนึ่งคลิปเริ่มจากการควบคุมแสงกล้องวิดีโอซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการถ่ายวิดีโอ โดยเฉพาะเมื่อใช้กล้อง DSLR หรือ Mirrorless ที่มีศักยภาพในการควบคุมค่าต่างๆ ได้อย่างละเอียด การเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างค่ารูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ และ ISO กล้องวิดีโอจะช่วยให้ผู้ถ่ายสามารถควบคุมแสงและบรรยากาศของภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หากต้องการสร้างความรู้สึกนุ่มนวลและแยกตัวแบบออกจากฉากหลัง
ผู้ที่มุ่งมั่นฝึกฝนและเรียนรู้เทคนิคต่างๆ อย่างลึกซึ้งจะสามารถสร้างผลงาน
การใช้รูรับแสงกว้าง จะช่วยให้ได้ภาพที่มีฉากหลังเบลออย่างสวยงาม กล้องวิดีโอในขณะที่การถ่ายในสภาพแสงน้อยก็อาจต้องปรับ ISO ให้สูงขึ้น แต่อย่าลืมว่าค่า ISO ที่สูงมากเกินไปอาจทำให้ภาพมี noise มากขึ้นซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของวิดีโอโดยรวมนอกจากนี้ การตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ให้สัมพันธ์กับค่าเฟรมเรต (frame rate) ก็สำคัญเช่นกัน โดยทั่วไปถ้าใช้เฟรมเรต 24 fps หรือ 30 fps ค่าความเร็วชัตเตอร์ควรอยู่ที่ประมาณ 1/50 หรือ 1/60 วินาทีตามลำดับ กล้องวิดีโอเพื่อให้การเคลื่อนไหวในวิดีโอดูเป็นธรรมชาติ การตั้งชัตเตอร์เร็วเกินไปจะทำให้ภาพดูแข็งและกระตุก
ซึ่งอาจเหมาะสำหรับเอฟเฟกต์เฉพาะทาง กล้องวิดีโอแต่ไม่นิยมใช้ในการถ่ายวิดีโอทั่วไปเทคนิคอีกประการที่ช่วยยกระดับความเป็นมืออาชีพคือการจัดองค์ประกอบภาพให้ดี ผู้ถ่ายควรเข้าใจหลักการเบื้องต้นเช่นกฎสามส่วน (rule of thirds) เพื่อจัดวางตำแหน่งของตัวแบบหรือจุดสนใจให้อยู่ในตำแหน่งที่ดึงดูดสายตาผู้ชม การวางกล้องให้ได้มุมที่เหมาะสม เช่น มุมต่ำเพื่อเพิ่มความน่าเกรงขามของตัวแบบ กล้องวิดีโอหรือมุมสูงเพื่อแสดงความอ่อนแอหรือความโดดเดี่ยว ก็เป็นการใช้มุมกล้องเพื่อเล่าเรื่องอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมุมกล้องแต่ละแบบจะส่งผลต่ออารมณ์และการรับรู้ของผู้ชมได้อย่างมาก
การถ่ายวิดีโอที่มีภาพสวยแต่เสียงไม่ชัดเจนหรือมีเสียงรบกวนมากเกินไป
อีกหนึ่งเรื่องที่มักถูกมองข้ามแต่ส่งผลมหาศาลคือการเคลื่อนไหวของกล้อง การถือกล้องให้นิ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งอาจใช้ขาตั้งกล้อง (tripod), gimbal, slider หรือแม้แต่การถือด้วยมืออย่างระมัดระวัง หากต้องการสร้างภาพเคลื่อนไหวที่มีความลื่นไหลและดูมืออาชีพ Gimbal กล้องวิดีโอจะช่วยลดแรงสั่นไหวและทำให้การเคลื่อนไหวดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในขณะที่การแพนกล้อง (pan), ทิลต์กล้อง (tilt), หรือการเคลื่อนไหวแบบ tracking shot ก็สามารถใช้เพื่อเน้นจุดสนใจ
หรือสร้างความเคลื่อนไหวให้กับเรื่องราวที่กำลังเล่าได้ดีขึ้น กล้องวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ทั้งนี้ผู้ถ่ายควรฝึกฝนจนชำนาญเพื่อให้สามารถควบคุมกล้องได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ช่วยเหลือมากนักการวางแผนก่อนการถ่ายทำก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนสตอรี่บอร์ด (storyboard) เพื่อวางแผนการถ่ายในแต่ละฉาก การจัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมล่วงหน้า รวมถึงการสำรวจโลเคชันและทดสอบแสงก่อนการถ่ายจริง

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.swsgroup.co.th/camcorders